ดูบทความ
ดูบทความครบจบในที่เดียว! เสื้อช็อปช่างรุ่นไหนมี 'แถบสะท้อนแสง' เหมาะกับงานกลางคืนและงานเสี่ยงภัย?
ครบจบในที่เดียว! เสื้อช็อปช่างรุ่นไหนมี 'แถบสะท้อนแสง' เหมาะกับงานกลางคืนและงานเสี่ยงภัย?
ความสำคัญของแถบสะท้อนแสงในเสื้อช็อปช่าง
งานช่างหลายประเภท โดยเฉพาะงานนอกสถานที่หรืองานในโรงงานขนาดใหญ่ มักต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง เช่น การทำงานใกล้รถยนต์หรือเครื่องจักรที่กำลังเคลื่อนที่ การทำงานในพื้นที่มืด หรือการทำงานในเวลากลางคืน ซึ่งการมองเห็นที่ไม่ชัดเจนอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ทันที แถบสะท้อนแสงทำหน้าที่สะท้อนแสงกลับไปยังแหล่งกำเนิดแสง ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้ารถ ไฟฉาย หรือแสงไฟจากเครื่องจักร ทำให้ผู้สวมใส่โดดเด่นและมองเห็นได้ง่ายขึ้นจากระยะไกล เป็นการเพิ่มความระมัดระวังและลดโอกาสเกิดการเฉี่ยวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการลงทุนด้านความปลอดภัยที่คุ้มค่าสำหรับชีวิตของคุณ
ประเภทของแถบสะท้อนแสงที่นิยม
แถบสะท้อนแสงที่ใช้บนเสื้อช็อปมีหลายประเภท แต่ที่นิยมและมีประสิทธิภาพสูงมักเป็นประเภทที่ผลิตจากวัสดุพิเศษที่สามารถสะท้อนแสงได้ดีเยี่ยม:
-
แถบสะท้อนแสงแบบผ้า (Fabric Reflective Tape): เป็นแถบที่เย็บติดไปกับตัวเสื้อ มักทำจากวัสดุที่ทอด้วยเส้นใยสะท้อนแสง มีความทนทานต่อการซักและการใช้งานในระยะยาว เหมาะสำหรับเสื้อช็อปที่ใช้งานหนักและต้องการความทนทานสูง
-
แถบสะท้อนแสงแบบไมโครปริซึม (Micro-Prismatic Reflective Tape): เป็นแถบที่ผลิตจากพลาสติกที่มีโครงสร้างคล้ายปริซึมขนาดเล็กจำนวนมากอยู่ภายใน ทำให้สามารถสะท้อนแสงกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงและเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง แม้ในมุมที่ต่างกัน มักจะมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อน้ำ
-
แถบสะท้อนแสงแบบลูกปัดแก้ว (Glass Bead Reflective Tape): เป็นแถบที่เคลือบด้วยลูกปัดแก้วขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนแสงได้ดีในทิศทางที่แสงตกกระทบ มีความสว่างสูงและเป็นที่นิยมใช้ในชุดนิรภัยต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีแถบสะท้อนแสงบางชนิดที่สามารถเรืองแสงในที่มืดได้ (Glow-in-the-dark) แต่ประสิทธิภาพหลักด้านความปลอดภัยมักจะมาจากการสะท้อนแสงกลับมากกว่าการเรืองแสงในตัวเอง
ตำแหน่งสำคัญที่ควรมีแถบสะท้อนแสงบนเสื้อช็อป
เพื่อให้แถบสะท้อนแสงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรจะอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นและมองเห็นได้ง่ายจากทุกทิศทาง โดยเฉพาะส่วนบนและส่วนล่างของร่างกาย:
-
รอบลำตัว (Body): ควรมีแถบสะท้อนแสงพาดรอบลำตัว ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยเฉพาะบริเวณอกและเอว เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนเมื่อหันหลังหรือด้านข้าง
-
แขน (Arms): การมีแถบสะท้อนแสงพาดรอบแขน ทั้งบริเวณต้นแขนและปลายแขน ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถส่งสัญญาณมือ หรือเป็นจุดสังเกตเมื่อเคลื่อนไหวแขนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
บ่า/ไหล่ (Shoulders): แถบสะท้อนแสงที่พาดผ่านบ่าหรือไหล่ ช่วยเพิ่มมิติในการมองเห็นและทำให้รูปร่างของผู้สวมใส่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านบนหรือด้านข้าง
เสื้อช็อปบางรุ่นอาจมีแถบสะท้อนแสงเพิ่มเติมบริเวณกระเป๋า หรือด้านหลังของคอเสื้อ เพื่อเพิ่มจุดสังเกตให้มากที่สุด แนะนำให้เลือกเสื้อช็อปที่มีแถบสะท้อนแสงในตำแหน่งที่ครบถ้วนและเหมาะสมกับประเภทงานที่คุณทำ
เลือกเสื้อช็อปที่มีแถบสะท้อนแสงอย่างไรให้ตอบโจทย์งานเสี่ยงภัย?
เมื่อทราบถึงประเภทและความสำคัญแล้ว การเลือกเสื้อช็อปที่มีแถบสะท้อนแสงที่เหมาะสมมีข้อควรพิจารณาดังนี้:
-
มาตรฐานการสะท้อนแสง: ตรวจสอบว่าแถบสะท้อนแสงเป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น EN ISO 20471 (มาตรฐานสำหรับเสื้อผ้าที่มองเห็นได้ชัดเจน) ซึ่งจะบ่งบอกถึงระดับความสว่างในการสะท้อนแสง
-
ความกว้างของแถบ: แถบสะท้อนแสงที่กว้างขึ้น (เช่น 2 นิ้ว หรือ 5 เซนติเมตร) มักจะมองเห็นได้ชัดเจนกว่า
-
ความทนทาน: เลือกแถบสะท้อนแสงที่เย็บติดแน่นหนา ไม่หลุดลอกง่าย ทนทานต่อการซักและการใช้งานซ้ำๆ
-
สีของเสื้อ: เสื้อช็อปที่มีสีสว่างสดใส เช่น สีส้มสะท้อนแสง สีเขียวนีออน หรือสีเหลืองสะท้อนแสง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นร่วมกับแถบสะท้อนแสงได้ดียิ่งขึ้น
-
ความเหมาะสมกับงาน: พิจารณาสภาพแวดล้อมการทำงาน หากต้องเผชิญกับน้ำมันหรือสารเคมีบ่อยครั้ง ควรเลือกเสื้อช็อปที่ทนทานต่อการซักล้างคราบสกปรกโดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพการสะท้อนแสงลดลง
การลงทุนในเสื้อช็อปช่างที่มีแถบสะท้อนแสงคุณภาพดีคือการลงทุนในความปลอดภัยของตัวคุณเองและเพื่อนร่วมงาน อย่ามองข้ามความสำคัญของอุปกรณ์ชิ้นนี้ในงานที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยง และเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและประสิทธิภาพสูงสุดครับ
27 กรกฎาคม 2568
ผู้ชม 3 ครั้ง