ดูบทความ
ดูบทความวัตถุดิบที่นิยมใช้ในการผลิตชุดยูนิฟอร์มและคุณสมบัติที่ควรทราบ
วัตถุดิบที่นิยมใช้ในการผลิตชุดยูนิฟอร์มและคุณสมบัติที่ควรทราบ
วัตถุดิบที่นิยมใช้ในการผลิตชุดยูนิฟอร์มและคุณสมบัติที่ควรทราบ
การเลือกวัตถุดิบสำหรับการผลิตชุดยูนิฟอร์ม ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ฝ่ายจัดซื้อและเจ้าของกิจการไม่ควรมองข้าม เพราะวัตถุดิบที่ใช้จะมีผลต่อภาพลักษณ์ ความคงทน อายุการใช้งาน และความสะดวกสบายของพนักงานโดยตรง บทความนี้จะอธิบายวัตถุดิบหลักที่นิยมใช้ในการตัดเย็บชุดยูนิฟอร์ม พร้อมคุณสมบัติเด่นที่ควรพิจารณา ดังนี้
1. ผ้าคอมทวิว (Combed Twill)
ผ้าคอมทวิวเป็นผ้าทอที่มีลักษณะเป็นผ twill ซึ่งผ่านการหวีเส้นใย (combed) ให้เรียบเนียนมากขึ้น ทำให้มีผิวสัมผัสที่นุ่ม ลายทแยงเห็นชัดเจน มีความแข็งแรง ทนต่อการเสียดสีได้ดี ไม่ยับง่าย เหมาะกับงานยูนิฟอร์มที่ต้องการความเป็นทางการ เช่น ชุดช่าง ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือพนักงานฝ่ายปฏิบัติการ
2. ผ้า TC (Tetron Cotton)
ผ้า TC เป็นการผสมระหว่างเส้นใยโพลีเอสเตอร์และฝ้ายในสัดส่วนประมาณ 65:35 หรือ 70:30 มีจุดเด่นคือไม่ยับง่าย รีดง่าย ดูแลรักษาง่าย ระบายอากาศได้พอสมควร ราคาย่อมเยา จึงได้รับความนิยมมากในการทำเสื้อโปโลยูนิฟอร์ม และเสื้อเชิ้ตพนักงานสำนักงานทั่วไป
3. ผ้า CVC (Chief Value Cotton)
CVC มีส่วนผสมของฝ้ายมากกว่าโพลีเอสเตอร์ เช่น 60% cotton และ 40% polyester จึงให้ความรู้สึกนุ่ม ใส่สบาย ระบายอากาศดีกว่า TC แต่ยังคงความคงทน ไม่หดตัวง่ายเมื่อซักบ่อย เหมาะกับงานยูนิฟอร์มที่ต้องการความนุ่มนวลและทนทานควบคู่กัน เช่น เสื้อเชิ้ตยูนิฟอร์ม หรือชุดพนักงานบริการ
4. ผ้าไมโครไฟเบอร์ (Microfiber)
ผ้าไมโครไฟเบอร์มีเส้นใยเล็กละเอียดมาก ทำให้ผิวสัมผัสเรียบลื่น น้ำหนักเบา แห้งเร็ว ดูแลรักษาง่าย ระบายอากาศได้ดี และไม่ขึ้นราง่าย เหมาะกับยูนิฟอร์มงานกีฬา ยูนิฟอร์มพนักงานที่ต้องเคลื่อนไหวบ่อย หรือทำงานกลางแจ้ง
5. ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
เป็นเส้นใยสังเคราะห์ 100% ที่ให้ความแข็งแรง เหนียว ทนต่อการยับและการซักได้ดีมาก แต่ระบายอากาศน้อยกว่าผ้าฝ้ายแท้ จึงอาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องเจอสภาพอากาศร้อนจัด เหมาะสำหรับเสื้อแจ็กเก็ตยูนิฟอร์ม หรือชุดที่ใช้ในงานกลางคืน
6. ผ้าฝ้าย (Cotton 100%)
ผ้าฝ้ายแท้จะให้ความสบายสูงที่สุด ระบายอากาศดี เหมาะกับอากาศร้อน มีความนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว แต่จะยับง่ายและหดได้บ้างเมื่อซัก เหมาะกับงานยูนิฟอร์มที่เน้นความเป็นมิตรต่อผิวหนังและภาพลักษณ์ที่ผ่อนคลาย เช่น ยูนิฟอร์มร้านกาแฟ ยูนิฟอร์มพนักงานร้านอาหาร
7. ผ้ายีนส์ (Denim)
ผ้ายีนส์มีความทนทานสูง มีลักษณะการทอที่หนาแน่น ให้ความแข็งแรง เหมาะกับชุดยูนิฟอร์มช่าง หรือพนักงานในโรงงานที่ต้องการป้องกันการขีดข่วนและแรงเสียดสี
8. ผ้าเวสปอยท์ (West Point)
เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมฝ้ายทอลายเรียบ มีความมันเงาและดูภูมิฐาน แข็งแรง ทนต่อการซักหลายครั้ง เหมาะกับยูนิฟอร์มฝ่ายบริหารหรือเสื้อเชิ้ตที่ต้องการความหรูหราและเรียบร้อย
9. ผ้าดริลล์ (Drill)
เป็นผ้าทอลายสองหรือทแยง มีความหนาปานกลางถึงหนา ให้ความทนทานต่อแรงดึง เหมาะกับงานยูนิฟอร์มช่าง และชุดยูนิฟอร์มที่ใช้ในอุตสาหกรรม
10. ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex)
นิยมผสมในสัดส่วนเล็กน้อยกับผ้าอื่นเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ให้การเคลื่อนไหวคล่องตัวขึ้น เหมาะกับชุดยูนิฟอร์มที่ต้องการความกระชับ เช่น ยูนิฟอร์มพนักงานฟิตเนส หรือพนักงานที่ทำงานด้านกีฬาและความบันเทิง
สรุป
การเลือกวัตถุดิบสำหรับตัดเย็บยูนิฟอร์มจำเป็นต้องพิจารณาจากลักษณะงาน ประเภทการใช้งาน และภาพลักษณ์ที่ต้องการสะท้อนออกไป วัตถุดิบแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน จึงควรเลือกโดยอิงตามความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมการทำงาน เพื่อให้ได้ยูนิฟอร์มที่ทั้งสวยงาม คงทน และช่วยเสริมบุคลิกพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
27 มิถุนายน 2568
ผู้ชม 41 ครั้ง